วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2551

น้องพิงค์เล่าเรื่อง (ภาค 2)

พ่อขา น้องพิงค์ว่า กฎข้อที่ 6 ของครอบครัวว่าด้วยการห้ามงอนนั้น ควรจะมีการแก้ไขนะคะ เพราะมันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ อิสตรีควรพึงมี
สำหรับข้อที่ 10 พึงซื้อของเล่นที่เหมาะสมให้กับลูกสาวตัวน้อยนั้น เป็นข้อที่น้องพิงค์สนับสนุนและเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และถ้าจะให้เหมาะเจาะ เหมาะสมมากยิ่งขั้น ก็ควรจะเป็นของเล่นที่ลูกที่แสนจะน่ารัก และเป็นเด็กดี (อย่างน้องพิงค์) ถูกใจและอยากได้ด้วยนะเจ้าคะ

อ้ายดนต์อย่าซีเรียสเลยน่า กฎทุกข้อมียกเว้นซำเหมอ อ้ายดนต์อยากได้รถถีบใช่ไหมล่ะ เดี๋ยวน้องพิงค์จะกระซิบบอกป้าอ๋อยให้นะคะ รับรองพรุ่งนี้ได้ปั่นรถถีบคันใหม่ไปโรงเรียนแน่ เชื่อฝีมือน้องพิงค์นะ โอเค้?

มามะ..น้องพิงค์ ไปเที่ยวจอมทองกับป้าแอดีกว่านะ เบื่อเล่นกับพี่ดนต์แล้วไม่ใช่เหรอ ป้าจะพาไปเที่ยวดอยอินทนนท์ไง
(แง..แง.. ไม่อาวนะ เค้าไม่ไปไหนทั้งนั้น จาอยู่บ้าน ฮือ..ฮือ)


โพสต์ท่ากันหน่อยดีกว่านะคะ แต่น้องพิงค์ไม่ไปกับป้าแอนะ


ป้าอย่ากอดน้องพิงค์แน่นมากสิคะ หายใจไม่ออกน๊า


อุ๊ย...อะไรหล่น ตังค์หรือป่าว แม่สอนว่าถ้าเก็บตังค์ได้ให้เอาไปคืนเจ้าของ
คงไม่ใช่หรอกน้องพิงค์ ถ้าเป็นตังค์จริง ๆ คงมีคนเก็บไปนานแล้ว



โธ่เอ๋ย...ที่แท้ก็เป็นฝาลิโพนี่เอง เห็นกลม ๆ นี่แน่ะ เหยียบซะเลย
ไม่เอาน้องพิงค์ เดี๋ยวมันบาดเท้าเอานะ เก็บไปทิ้งในถังขยะดีกว่า

ปล. วันนั้นป้าแอต้องกลับไปทำงานที่จอมทอง กะว่าจะพาน้องพิงค์ไปเที่ยวซะหน่อย แต่เจ้าตัวไม่ยอม สงสัยกลัวจะห่างแม่ อิอิ...(แต่ความจริงกลัวห่างป้าอ๋อยมากกว่า เฮ้อ...ไม่ติดแม่เล้ย เจ้าตัวน้อยของแม่)

น้องพิงค์เล่าเรื่อง (ภาค 1)

นี่อารายคะพ่อขา แม่บอกว่ามันคือ "ฮูดัง" อิอิ... น้องพิงค์อยากมีจมูกโด่ง ๆ แบบนี้มั่งจัง ป้าอ๋อยบอกว่า ตอนนี้น้องพิงค์ยังเล็ก จมูกอาจจะยังไม่โด่ง แต่ถ้าโตขึ้น สันจมูกจะเริ่มโด่งเอง ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ฮ่า...ฮ่า
อู้ฮู้...ดอกไม้สวยจังเลยค่า แต่ว่าไม่มีภาพมาให้ชมนะคะ เพราะพ่อบอกว่าจะจัดให้สวยกว่านี้ พร้อมนำเสนอช่วงปีใหม่ค่ะ


จ๊ะเอ๋...อุ๊ยขาป้าอ๋อยขา ทำอะไรให้น้องพิงค์กินคะ เช้านี้อยากกิน กาแฟ เอ้ย ไม่ใช่ นมสด ไข่ดาว ขนมปังปิ้งทาแยมส้ม ได้ไหมคะ

แล้วแม่จะกินอะไรคะ อ๋อ...เหมือนพ่อใช่ไหมคะ หมูทอดกระเทียมจิ้มน้ำพริกมะเฟือง (หรืออาจเป็นน้ำพริกมะกอก) กินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ เมนูโปรดของพ่อ (ทุกวัน) ที่กลับมาบ้าน เมื่อวานน้องพิงค์แอบชิมไปนิดนึง อร่อยมากเลยค่ะ ลุงใหญ่ยังติดใจเล้ย ขอบอก

อุ๊ยขา...น้องพิงค์เปลี่ยนใจแล้ว อยากกินข้าวจี่มากกว่า สอดไส้น้ำอ้อยด้วยได้ไหมคะ แม่บอกว่า "ลำแต๊ ๆ"

ฮือ..ฮือ..น้องพิงค์ไม่อยากกินนม อยากกินข้าวจี่ ทำไมอุ๊ยไม่ยอมทำให้น้องพิงค์กินล่ะคะ

แง..แง..ต้องกินนมอีกแล้ว


เฮ้อ..สุดท้ายก็ต้องกินนมเหมือนเดิมเลยเรา ทำไมไม่ยอมให้กินอะไรอร่อย ๆ มั่งน๊า...นี่จำใจกินนะเนี่ย ท้องมันร้องจ้อก ...จ้อก นี่นา ทำไงได้ เห็นเป็นเด็กตัวน้อย จะทำอะไรไม่สนใจเราเล้ย ...กลุ้ม

น้องพิงค์มาเล่นกับป้าแอดีกว่าลูก หนูกินนมอิ่มแล้วใช่ไหมคะ งั้นเรามาหาอะไรเล่นสนุก ๆ กัน
น้องพิงค์อยากอ่านหนังสือนิทานค่ะ เรื่อง ราชากะฤาษี

น้องพิงค์ชอบอ่านเรื่องนี้ สนุกดี ตอนฤาษีเสกคาถา "โอม ฮะฮา ฮิฮี กะลามีกะปิ กะลามีกะทิ ผีตาดีมีมะระ โอม ฮะฮา ฮิฮี"
น้องพิงค์ขอเสกให้ทุกคนมีความสุขนะคะ บ๊าย..บายก่อนน๊า ไว้เจอกันใหม่จ้า



หนูน้อยนักช้อปปิ้ง

ป้าอ๋อยขา เมื่อไหร่เราจะออกไปเที่ยวห้างกันดีล่ะ...น้องพิงค์เบื่อแล้วนา
ประโยคนี้ ถึงแม้น้องพิงค์จะยังเอ่ยออกมาเป็นถ้อยคำไม่ได้ แต่ก็มักจะถามด้วยสายตาและท่าที เพื่อกระตุ้นให้ป้าอ๋อย แม่ และ พ่อ พาเที่ยวอยู่เสมอ เพราะน้องพิงค์คงจะเบื่อที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องแคบๆแบบนี้ทั้งวันค่ะ อยู่กรุงเทพฯมันน่าเบื่อจัง สู้บ้านเราที่เชียงใหม่ไม่ได้เนอะ

เย้ !! พ่อกับแม่กลับมาแล้ว น้องพิงค์จะได้ไปเดินห้างเสียที คอยมาทั้งวันแล้วนะเนี่ย

ห้างที่น้องพิงค์ไปบ่อยที่สุด ก็คือ The Mall บางแค เจ้าค่ะ...ไปจนพนักงานในซุปเปอร์น่าจะรู้จักเกือบหมดแล้ว อิ..อิ น้องพิงค์ชอบดูคน ดูของที่วางเรียงรายอยู่ลานตา หลากสีสัน เห็นของอะไรที่สนใจ ก็จะร้องแล้วชี้ให้พ่อ แม่ หรือ ป้าอ๋อย อุ้มไปดูแล้วหยิบมาถือเขย่าเล่น ส่วนใหญ่น้องพิงค์จะอ้อนให้อุ้มค่ะ เพราะชอบแบบนั้น มากกว่าการนั่งในรถเข็น เล่นเอาคนอุ้มเมื่อยกันไปตามๆกัน ต้องใช้วิธีอุ้มแบบผลัดมือทุก 10 นาทีค่ะ




มุมขายอาหารสัตว์นี้ก็เป็นมุมโปรดมุมหนึ่งของน้องพิงค์ค่ะ เพราะมีตุ๊กตาสุนัขสวยๆ

ถ้าเจอของถูกใจ น้องพิงค์จะดิ้นรนเพื่อหาทางลงไปสำรวจและค้นหาขุมสมบัติค่ะ

อู้ฮู้ !! ของน่ากินทั้งน้านเลย แม่ๆ น้องพิงค์อยากกินจังเลย ถ้ากินกับนมคงเคี้ยวมันดีนะแม่...


น้องพิงค์ยังเล็กอยู่ อย่าเพิ่งกินอาหารเช้าของเด็กโตเลยนะจ๊ะ เอาลูกเกดไปเคี้ยวเล่นก่อนก็แล้วกัน
แหงะ...เซ็งเลยเรา....อ่ะ...เอาก็เอา...ยังดีกว่าไม่ได้กิน เนอะ ป้าอ๋อย


กลับกันหรือยังแม่...น้องพิงค์จะกลับไปกินลูกเกด...
อ้าว...แหม..ได้ของตัวเองแล้วจะกลับเลยเหรอ แม่ยังซื้อของไม่เสร็จเลยลูกจ๋า


สรุปแล้วเวลาไปช้อปปิ้ง ส่วนใหญ่ก็ได้แต่ของน้องพิงค์เต็มรถแทบทุกครั้งค่ะ 555
บางครั้ง น้องพิงค์ก็ไปช้อปปิ้งที่ห้างเทสโก้ โลตัส นะคะ แต่ก็ไม่บ่อยเท่าไหร่
เพราะที่โลตัสบางใหญ่ ไม่มีร้านอาหารญี่ปุ่นฟูจิให้น้องพิงค์เข้าไปกินอาหารโปรดเจ้าค่ะ



Little Pink @ Home

เช้าตรู่พ่อพาน้องพิงค์เดินชมสวน อากาศกำลังดีค่ะ มีน้ำค้างลงประปรายแม่เลยจับน้องพิงค์ใส่หมวก กลัวจะเป็นหวัดนั่นเอง น้องพิงค์เคยไม่สบาย ไข้ขึ้นตั้ง 39 องศาแน่ะ ช่วงที่มาอยู่บ้านและกำลังจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ คราวที่แล้วนั่นแหละค่ะ แม่เลยกังวลมากเวลาน้องพิงค์มีน้ำมูก หรือตัวอุ่น ๆ จะคอยโทร.เช็คป้าอ๋อยตลอดเลย
พ่อภูมิใจนำเสนอตาแป๊ะตกปลา (ซื้อมาจากริมทาง จ.ตาก) อ่างน้ำพุของพ่อครึ้มไปด้วยใบไม้และตะไคร่น้ำ เห็นแล้วพ่อเข่าอ่อน ด้วยความที่ไม่มีใครดูแล เพราะพี่อาร์ตมัวยุ่งอยู่กับงานจนไม่มีเวลากลับบ้านและมาดูแลสวนเลย พ่อบอกว่าต้องหาเวลามาจัดการกับมุมนี้ด่วน

หวายสีขาว สวย บริสุทธิ์ น่ารักเหมือนเจ้าของ อิ..อิ..

สีสันสวยสะดุดตา ใครผ่านมาเป็นต้องเมียงมองเข้ามาดูสวนบ้านน้องพิงค์

พ่อพาน้องพิงค์มาเดินย่ำน้ำค้างยอดหญ้าเอาเคล็ด เพราะยายของน้อง F-4 บอกว่า จะทำให้เดินเก่ง ช่วงนี้น้องพิงค์กำลังหัดเดินพอดี พ่อเลยจัดการโลด

พ่อจ๋า น้องพิงค์จั๊กกะเดียม
งั้นพ่อพาไปดูอุ๊ยกับป้าอ๋อยทำกับข้าวดีกว่าไหมลูก ไป..โลด (โปรดติดตามตอนต่อไป)



ไปเที่ยวสยามพารากอน(Siam Ocean World)

พ่อพาน้องพิงค์ พี่แชมป์ แม่ และป้าอ๋อยไปเที่ยวสยามพากอน ส่วนพี่ปอ คร่ำเคร่งกับการทำงานส่งครู ขอตัวไม่ไป (น่าเสียดาย) พวกเราต่างคนต่างก็ไม่เคยไปเที่ยวสยามพารากอนกันเลย แม้แต่พ่อผู้ซึ่งได้ชื่อว่า "เที่ยวทุกทิศทั่วไทย" ก็ยังไม่เคยเหยียบย่างมา ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก แต่พ่อก็มีเหตุผลว่าที่พ่อไม่ได้มาที่นี่ เพราะช่วงก่อนหน้านั้น แม่ตั้งท้องน้องพิงค์ และพอคลอด น้องพิงค์ก็ยังเล็กเกินไปที่จะพาไปเที่ยว จนกระทั่งตอนนี้ น้องพิงค์โตพอที่จะพาไปเที่ยวได้แล้ว พ่อเลยพามา ...
ปลาหมึกยักษ์ตัวหญ่าย...น่ากิน อิอิ...

ปลาหลากหลายขนาดและสีสัน น้องพิงค์อยากดำน้ำไปดูปลาจังเลยค่า

ใส่ชูชีพเตรียมลงเรือท้องแบนไปดูปลาอย่างใกล้ชิด งานนี้น้องพิงค์ใจไม่สู้ ร้องไห้จ้า...ไม่ยอมใส่ชูชีพ พ่อบอกว่าคงเป็นเพราะเสื้อมันแข็ง ไม่นิ่ม แต่พอลงเรือ น้องพิงค์ก็ก้มมองดูปลาอย่างสนุกสนาน

ก้มมองอะไรน่ะ น้องพิงค์


ตัวอะไรเอ่ย...ใครตอบได้ น้องพิงค์มีรางวัลให้ค่า...


ถ่ายกับนกเพนกวินตัวใหญ่...ตัวจริงอยู่ในกระจกไม่ค่อยยอมออกมาโชว์ตัวเล้ย

สัตว์ที่จำแนกประเภทไม่ได้ค่ะ...
หมายเหตุ เนื่องจากส่วนจัดแสดงสัตว์เหล่านี้ค่อนข้างมืด จึงทำให้ถ่ายรูปออกมาไม่ค่อยสวย แม่เลยมีภาพประกอบนิดเดียวค่ะ แต่แม่ถ่ายรูปจากมือถือไว้เยอะพอสมควร รวมทั้งคลิปวิดีโอ ไว้คราวหน้าจะทยอยลงรูปเหล่านั้นมาให้ชมกันอีกนะคะ



วันสบายๆของน้องพิงค์

ตั้งแต่อายุครบ 1 ขวบ แม่ก็อนุญาตให้น้องพิงค์ได้ลิ้มลองไอติมบ้าง รสชาติอร่อยดีค่ะ แต่มอมแมมเชียว
มอมเป็นแมวคราวเลย แน่ะ มัดผมแกละด้วย ป้าอ๋อยฉวยโอกาสตอนน้องพิงค์กำลังหม่ำไอติม มัดผมให้ค่ะ

อิ่มหนำสำราญ ล้างหน้าตาแล้ว ค่า... (โปรดสังเกตหางตาข้างขวา รอยช้ำยังไม่หายดีเลย)

เวลาแห่งความสุข คือการดูการ์ตูนนั่นเอง (แม่ไม่อยากให้ดูเล้ย)

ช่วงบ่ายเป็นเวลาของการกินของว่างและอ่านหนังสือ น้องพิงค์กำลังกินองุ่นอยู่ค่ะ

โปรดสังเกตรอบตัวน้องพิงค์มีแต่หมอนกับตุ๊กตาเต็มไปหมด แม่บอกว่าป้องกันน้องพิงค์เอาหัวไปโหม่งผนังเล่นนั่นเอง

สาวหวานแห่งปี


อยากไปเที่ยวแล้วค่า...ป้าอ๋อย


ลงมาเล่นกับน้องมีนค่ะ อายุน้อยกว่าน้องพิงค์ประมาณ 5 เดือน อีกหน่อยก็โตทันกัน แต่ตอนนี้น้องพิงค์ตัวโตกว่า

ทำกับข้าวกินเองดีกว่ามั้งเรา...ใครทำอะไรให้ก็ไม่ถูกใจ ถูกปากเล้ย

แหม...แซ่บอีหลีเด้อ...


ดับกระหาย คลายแซ่บ ด้วยน้ำเปล่าแสนชื่นใจ...ฮ้า..

แม่จับน้องพิงค์มัดผม ป้าอ๋อยบอกว่าถ้าแต่งชุดไทย ไปรำได้สบายเลย

นอนดูการ์ตูนอีกแล้ว น้องพิงค์ อย่าดูมากนักนะลูก

เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ไปเดินเล่นกันดีกว่านะคะ บ๊าย-บายก่อนน๊า ไว้วันหน้าจะเอารูปสวยๆ มาอวดอีก