


ป้าแอโทร.หาแม่ บอกว่ายายร้องไห้คิดถึงน้องพิงค์ทุกวัน มองไปทางไหนก็คิดถึงหลาน เห็นผ้าอ้อมก็ร้องไห้ เวลานอนก็ไปนอนที่ห้องน้องพิงค์ สุดท้ายทั้งป้าทั้งยายก็กอดกันร้องไห้ แม่เองเวลาคุยกับป้าแอ น้องพิงค์ก็เห็นแม่แอบปาดน้ำตาทิ้งเหมือนกัน สรุปแล้วทุกคนก็ร้องไห้กันหมด น้องพิงค์เองแม้จะยังเล็กไร้เดียงสา แต่ก็รับรู้เหมือนกัน น้องพิงค์ก็คิดถึงยาย ตา คิดถึงป้าแอ เพราะมาอยู่กรุงเทพฯ ไม่คึกคักเหมือนที่บ้านเราเลย มีแต่แม่ พ่อ และป้าอ๋อยเท่านั้นเอง ที่บ้านยังมีตา ยาย ป้าแอ ลุงเบิ้ม ป้าพร พี่บาส พี่บุ๊ค พี่บูม พี่ดนย์ พี่อาร์ต ที่แม้จะไม่ได้เจอกันทุกวัน แต่ก็มาหาหลานกันเกือบทุกวันหยุด โดยเฉพาะป้าแอ ที่โดนแม่ขอร้องแกมบังคับให้กลับบ้านทุกอาทิตย์ เพื่อมาเลี้ยงน้องพิงค์โดยเฉพาะ พ่อกับแม่จะได้ออกไปทำธุระ (เที่ยว) บ้าง
น้องพิงค์มาอยู่กรุงเทพฯ ได้ 6 วันแล้ว กำลังอยู่ในช่วงของการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่นี่ เพราะกรุงเทพฯ ร้อนกว่าที่เชียงใหม่ ตอนอยู่ที่บ้านเชียงใหม่ น้องพิงค์ต้องใส่ชุดกันหนาว เพราะบางวันอุณหภูมิในห้องนอน ลดลงเหลือ 15 องศาเท่านั้น ในขณะที่กลางสนามหญ้าหน้าบ้านอุณหภูมิ 8 องศา นอนห่มผ้าหลายชั้นมาก แต่ที่กรุงเทพฯ เสื้อผ้าที่ขนมาจากเชียงใหม่แทบไม่ได้ใช้เลย เพราะที่นี่ร้อน แม้ว่าจะเปิดแอร์ แต่น้องพิงค์ก็ยังมีเหงื่อออก เวลาที่ยายโทร.มาหาน้องพิงค์ ก็มักจะถามเสมอว่าน้องพิงค์เป็นอย่างไรบ้าง คิดถึงยายไหม? น้องพิงค์อยากบอกว่า น้องพิงค์คิดถึงยายมาก แล้วก็ชอบอากาศสดชื่นที่บ้านเรามากกว่าที่กรุงเทพฯจ้ะ
ป้าป้อม กำลังนั่งดูหนังจากยูบีซี ในช่วงที่น้องพิงค์นอนหลับพักผ่อนตอนกลางวัน น้องพิงค์ตัวหนักประมาณ 5 กิโลกรัมแล้วในตอนนี้ ป้าป้อมอุ้มไม่ไหว ได้แต่หยอกล้อตอนที่น้องพิงค์อยู่บนตัวคุณพ่อ
หนาวหรือไม่ ลองดูชุดที่น้องพิงค์ใส่ ก็น่าจะรู้นะจ๊ะ ขนาดเป็นคนขี้ร้อน เหงื่อออกง่าย น้องพิงค์ยังยอมใส่ชุดหมีพู โดยดี
บ่ายวันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน 2549 อากาศที่บ้านสวนริมธาร อ.ดอยสะเก็ด เย็นสบายด้วยอุณหภูมิภายในห้องนั่งเล่นประมาณ 26 องศาเซลเซียส เพราะเป็นช่วงฤดูหนาวของเชียงใหม่ น้ากัลยาณีย์ มาพร้อมคุณแม่ และพี่พีช ส่วนหน้าอนงค์ เดินทางมาคนเดียว มาเยี่ยมน้องพิงค์พร้อมๆกัน น้าณีย์และน้านงค์ เป็นเพื่อนของแม่น้อยมาตั้งแต่เด็ก ร้องไห้ขี้มูกโป่งมาด้วยกัน น้าณีย์มีลูกสาวก่อนแม่น้อย ชื่อ พี่พีช โตเร็วจัง เผลอแป๊บเดียว 3 ขวบแล้ว ส่วนน้านงค์ยังโสดจ้า...น้องพิงค์นอนเล่น กินนมจากเต้า..สบายอารมณ์ มีหงุดหงิดเล็กน้อย เมื่อน้ำนมไหลไม่ทันใจ วันนี้สายสะดือของน้องพิงค์หลุดแล้ว หลังจากลุ้นว่าจะหลุดเมื่อไหร่มานานกว่า 20 วัน ต่อไปก็ต้องมาลุ้นอีกว่าน้องพิงค์จะสะดือจุ่นหรือเปล่า (ฮา...)
ยินดีนักๆ ที่มาเยี่ยมน้องพิงค์เจ้า... แล้วต้องปิ๊กมาแหมเน้อ...
ช่วงแรกของการผ่าตัดคลอด คุณแม่ทานอะไรไม่ได้ถึงสองวัน แต่ได้รับน้ำเกลือแทน หลังจากนั้น โรงพยาบาลจัดอาหารอ่อนประเภทข้าวต้มมาให้ทาน อาหารบางอย่างก็ต้องให้คนเฝ้าทานแทน เพราะไปขัดกับความเชื่อโบราณว่าเป็นของแสลงสำหรับคนที่คลอดบุตรใหม่ๆ เช่น แตงโม เป็นต้น ตอนนี้คุณแม่โหยหา ส้มตำปูม้า , ปลากระพงทอดน้ำปลา ฯลฯ ของครัวเจ้ง๊อ มากเลยล่ะ อิ..อิ